วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

ส่งเอกสารขอทุนไปจีน

จัดเตรียมเอกสารต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมส่งค่ะ  ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของเอกสาร การสะกดคำ ชื่อมหาวิทยาลัยใน proposal หรือที่ต่างๆที่มีการอ้างชื่อมหาวิทยาลัย เนื่องจากบางคนส่งหลายมหาวิทยาลัยและcopy มาก็อย่าลืมแก้ชื่อมหาวิทยาลัยด้วยนะคะ ตรงนี้สำคัญมาก

จากนั้นจัดเรียงเอกสารให้ครบตาม list of documents ใส่แฟ้มให้ดูเรียบร้อย ที่เราทำส่งก็ใช้แฟ้มสันรูดค่ะ ถ้ามหาวิทยาลัยไหนต้องการหลายฉบับ เช่นบอกว่าต้องการ 2 copy เราก็ต้องจัดเตรียมเป็น 3 ชุด แปะบอกให้เรียบร้อยว่าชุดไหนเป็น original ชุดไหนเป็น copy  (อย่าลืมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องด้วยนะคะสำหรับเอกสารทุกอย่างที่ถ่ายเอกสาร)

การส่งเอกสารนั้น ใครใคร่อยากส่งแบบไหนก็ส่งเลยค่ะ อยากจะส่งแบบประหยัด หรือจะส่งแบบเอาเร็วเข้าว่า (เนื่องจากใกล้วันกำหนดปิดรับสมัคร ถ้าถูกหน่อยก็ไปรษณีย์ไทย ลงทะเบียน ems ก็ว่ากันไป แต่สำหรับเราเอง อย่างที่บอกกว่าเอกสารจะเสร็จก็ใกล้ปิดรับสมัครไม่กี่วัน หมดทางเลือก เลยใช้บริการ DHL ส่งวันนี้ถึงพรุ่งนี้ไวดีคะ ตาม track ได้ตลอดว่าเอกสารเราถึงไหนแล้ว ถึงมือผู้รับหรือยัง สะดวกดีคะ แต่…..แพง  พวกนี้คิดค่าบริการขั้นต่ำครึ่งโล และตามระยะทาง ของเราโดนที่ละ 700 กว่าบาท  ส่งไป 3 ที่ โดนไป 2,000 กว่าบาท T T  ที่น่าเจ็บใจกว่านั้น คือ เข้าใจผิดเกี่ยวกับใบสมัคร csc  เนื่องจากใช้ ใบสมัครเดียวกัน ส่งไปทั้ง 3 มหาลัย แต่จริงๆ แล้วต้องคีย์ใบสมัครมหาลัยละ 1 ครั้งค่ะ จะมี serial no. แต่ละละใบสมัครไม่เหมือนกัน  เลยต้องคีย์ใบสมัคร csc แล้วส่งไปใหม่ 2 มหาลัยที่ผิด (เสียเงินค่าไปรษณีย์อีก 1,400 หุหุ) แต่ก็โชคดีที่รู้ทัน ก่อนปิดรับสมัคร เพราะมี 1ใน 2 ของที่ส่งผิด เค้าเมล์มาบอกว่าได้รับเอกสารแล้ว แต่หาไม่เจอในระบบ csc …งานเข้าเลย สืบไปมาได้ความมาว่าต้องสมัคร 3 ครั้ง เพื่อให้ได้ใบสมัครที่มี serial ของแต่ละมหาลัยที่เราส่ง  เพราะ ฉะนั้นดูดีๆนะคะ สำหรับใครที่คิดจะส่งหลายมหาลัย

ทีนี้ส่งไปแล้วก็ตามดู track ตามที่เขาให้มาค่ะ ว่าส่งถึงมือคนรับหรือยัง ถ้าถึงแล้วก็สบายใจค่ะ  จากนั้นถึงเวลาที่ต้องรอๆๆๆ และรอ รออะไรหรอ??  รอความคืบหน้าค่ะ ว่าจะได้ทุนหรือไม่ และกระบวนการคัดเลือกอยู่ที่มหาลัยที่เราส่งไปค่ะ คนที่รับเราเข้าเรียนและเสนอชื่อขอทุนต่อ csc คือมหาลัย  ระหว่างนี้ขอให้หมั่นตรวจสอบเมล์ ตามที่ได้ระบุไว้ในใบสมัคร เพราะส่วนมากเขาจะแจ้งความคืบหน้าต่างๆทางเมล์ค่ะอย่างของเรามหาลัยมีนัดสัมภาษณ์ผ่านทาง skype  ก็จะส่งเมล์มาแจ้งเรื่องวันเวลา ฯลฯ สำหรับบางมหาลัย ก็จะโทรมาแทนก็มีคะ (จากประสบการณ์คนอื่น) ดังนั้น ขอให้หมั่นเช็คเมล์บ่อยๆ หรือ อย่าพลาดรับสายโทรศัพท์เลยได้ยิ่งดี
หลังจากส่งเอกสารและทำตามกระบวนการตามที่มหาลัยแจ้งแล้ว เช่น สัมภาษณ์ /สอบข้อเขียน (บางมหาลัย) ก็รอเลยค่ะ นอนตีพุงรอไปแบบยาวๆๆๆๆๆ ส่วนมากจะประกาศเดือน กรกฎาคมค่ะ อาจเข้าไปดูเว็บมหาลัยที่เราส่ง ว่าประกาศผลหรือยัง บางทีบางมหาลัยไม่ประกาศผล ก็รอต่อไป บางคนรู้อีกทีว่าได้ทุนก็มีเอกสารมาถึงบ้านเลยทีเดียว คิดว่าจะไม่ได้ทุนซะแล้วงี้


พอแค่นี้ก่อนเนาะ เดี๋ยวมาเม้าท์ต่อ..