วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2558

มาขอทุนรัฐบาลจีนได้ยังไง

ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่า ไม่ได้เป็นคนเก่งอะไรค่ะที่ได้ทุนจีน ทั้งภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ดีเด่ ภาษาจีนได้นิดหน่อยเพราะเคยเรียนภาษาจีนเป็นวิชาโท สมัยปริญญาตรี เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว...ง้อววว จะมีอะไรเหลืออะไรอยู่ในหัวบ้าง 5555  แถมยังจบป.โทมาตั้งหลายปี เป็นพนักงานสถาบันการเงิน ความรู้เริ่มเลือนลางหายไปกับระยะเวลา สาขาที่จบก็จบสายศิลป์ (เศรษฐศาสตร์ / การเงิน)  ไม่มีโครงงานหรือผลวิจัยใดๆที่พอจะนำไปเขียนใน Proposal เหมือนเด็กสายวิทย์ได้เลย

...อ่านมาถึงตรงนี้แล้วใครที่ไม่รู้จะเริ่มยังไง หรือคิดว่าตัวเองคงไม่มีทางได้ทุนแน่ๆ น่าจะใจชื้นนะคะ เพราะเราเองก็เริ่มต้นจาก 0 และคว้าทุนมาได้ จริงๆก็ไม่เยอะอะไรแต่ต้องมีความอดทนและพยายามพอสมควรค่ะ...สู้ๆ

แล้วคิดยังไงถึงไปขอทุนรัฐบาลจีน??

สารภาพตามตรงว่า ทุนจีนไม่ได้อยู่ในหัวตั้งแต่แรกค่ะ ก็เข้าไปดูตามเว็บต่างๆพวกประกาศทุนเรียนฟรี ป.โท ป.เอก ต่างประเทศ ซึ่งส่วนมากจะเป็นทาง UK และยุโรป ก็มองๆไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นก็เตรียมตัวศึกษาภาษาอังกฤษ เพื่อจะไปสอบ IELTS ซึ่งเค้าก็เรียกคะแนนสูงพอสมควรเพื่อให้ได้รับทุนเข้าเรียนต่อ

และช่วงนั้นได้รู้จักกับเพื่อนในกรุปไลน์การศึกษา มีคนที่ได้ทุนทั้งของรัฐบาลญี่ปุ่น และรัฐบาลจีน ซึ่งกำลังศึกษาปริญญาเอกกันอยู่ ก็ได้รับการแชร์ประสบการณ์การขอทุนในเบื้องต้น และคิดว่าทุนในประเทศแถบเอเชียน่าจะง่ายกว่าทาง UK หรือยุโรป ซึ่งคะแนนภาษาอังกฤษที่เขาต้องการไม่ได้สูงมากด้วย ซึ่งน่าจะเข้าทางเด็กที่ไม่เก่งอังกฤษอย่างเรา ก็เลยหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเพื่อศึกษาข้อมูลว่ามีประเทศในแถบเอเชียเปิดรับสมัครหรือยัง มีมหาวิทยาลัยไหนเปิดรับสาขาที่เราใกล้เคียงกับที่จบและเราอยากศึกษาต่อ 

...ค้นไปค้นไปค้นมาก็ได้ข้อสรุปว่า ประเทศที่น่าจะยื่นใบสมัครมากที่สุด คือ จีน และ ไต้หวัน เย้!!!
แล้วทำไมถึงเลือกประเทศจีนล่ะ ?? ง่ายๆ เลยคือ ไม่ทันกำหนดรับปิดรับสมัครของไต้หวันค่ะ ไต้หวันปิดรับสมัครสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ แต่จีนส่วนมากจะปิดรับมีนาคม เหตุผลง่ายๆ แค่นี้แล ไม่มีอะไรซับซ้อน 555...

เอวังด้วยประการละฉะนี้

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ23 มีนาคม 2561 เวลา 10:45

    ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความ ตอนนี้ผมกำลังสมัครของทุนอยู่ครับแต่มีปัญหาเรื่องใบรับรองร่างกาย

    ตอบลบ